แพ้ครีมทาผิว 7 วิธีแก้ไข ทำอย่างไรไม่ให้ผิวพัง
แพ้ครีมทาผิว 7 วิธีแก้ไข ทำอย่างไรไม่ให้ผิวพัง ในปัจจุบันมีครีมทาผิวผลิตมามากมายหลากหลายยี่ห้อ ทำให้เรามีสิทธิ์เลือกได้มากกว่าสมัยก่อน แต่ผลเสียที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจนั่นก็คือ อาการแพ้ที่เกิดจากครีมทาผิวนั่นเอง โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับคนที่ผิวบาง ผิวแพ้ง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ซึ่งอาจจะไปลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมตามเพื่อน ตามคำแนะนำ ตามรีวิว ซึ่งไม่เหมาะกับผิวของเรานั่นเอง วันนี้จึงมีวิธีรักษาปัญหาการแพ้ครีมทาผิวมาฝากกัน ไปดูกันเลย — แพ้ครีมทาผิว
1. เลิกใช้ครีมทาผิวเจ้าปัญหา – วิธีแก้แพ้ครีมทาผิว
วิธีแก้แพ้ครีมทาผิว สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหน้า แล้วมั่นใจว่าเกิดขึ้นมาจากครีมทาผิวแน่ ให้หยุดใช้โดยทันที ไม่ต้องเสียดายว่าครีมยังเหลืออยู่ ใช้ให้หมด นั่นจะยิ่งทำให้ปัญหาผิวหน้าเราเป็นหนักขึ้นไปอีกมาก ดังนั้นวิธีที่ดีในขั้นแรกก็คือการหยุดใช้ครีมทาผิว
โดยให้ลองนำส่วนผสมต่างๆ ของครีมทาผิวเจ้าปัญหา มาเทียบกับครีมทาผิวชนิดที่เราทาแล้วไม่แพ้ แล้วดูว่าเราแพ้สารเคมีตัวไหน เพื่อจะได้ใช้เป็นการตัดสินใจในการเลือกใช้ครีมตัวอื่นต่อไป
2. ไปพบแพทย์
สำหรับบางคนที่คิดว่าเดี๋ยวก็หาย อาจจะยังไม่ต้องไปหาหมอก็ได้ แต่ว่าคนที่ห่วงผิวหน้า ผิวกายส่วนใหญ่ เมื่อแพ้ครีมทาผิวแล้ว ก็จะไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อขอคำปรึกษาและการรักษา
โดยส่วนใหญ่แพทย์ที่พบจะเป็นคลินิกผิวหนัง ซึ่งอาจจะมีราคาแพง แต่รับรองว่าคุณภาพนั้นสามารถทำให้เรามีผิวหน้าผิวกายสวยใสอย่างแน่นอน แต่บางคนอาจจะมีปัญหาไม่มากนัก ก็อาจจะยังไม่ต้องไปพบแพทย์ก็ได้ เพียงแค่ลองทำตามข้ออื่นๆ ต่อไปนี้
3. หยุดครีมทาผิวตัวอื่นด้วย
ไม่ใช่ว่าจะหยุดครีมทาผิวเจ้าปัญหาอย่างเดียว แล้วตัวอื่นก็ยังใช้งานต่อเหมือนเดิม ซึ่งแน่นอนว่าก่อนหน้าจะแพ้ครีม เราก็ยังสามารถใช้ครีมได้ปกติ แต่พอหน้าเราเกิดอาการแพ้แล้ว การทาครีมหลายตัวหรือครีมที่ใช้ได้ปกตินั้นจะเข้าไปในแผลที่ผิวหน้า ผิวกาย ทำให้เกิดอาการระคายเคือง เกิดอาการหนักขึ้นกว่าเดิม และอาจจะไปทำให้ผิวอุดตันเพิ่มมากขึ้นด้วย ทางที่ดีคือหยุดครีมทาผิวทุกอย่างก่อน แล้วค่อยๆ รักษา แบบเป็นไปตามกระบวนการ ให้หน้าหายดีก่อน แล้วตอนนั้นจะจัดครีมอะไรก็ได้ตามสบาย
4. ใช้น้ำเปล่าล้างหน้าเท่านั้น
ในเวลาแบบนี้ที่ผิวแพ้ครีม วิธีที่ดีที่สุดคือการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า อาจจะใช้สบู่อ่อนๆ ได้ แต่ห้ามใช้โฟมโดยเด็ดขาด เพราะสารเคมีในโฟมจะรุนแรงมากกว่าในสบู่ ซึ่งเป็นเพียงเบสอ่อนๆ
แต่ถ้าเลือกได้ก็ให้ล้างด้วยน้ำเปล่าเท่านั้นเลย ซึ่งจะทำให้เป็นการล้างสารเคมีออกไปโดยที่ไม่ต้องมีการเพิ่มของใหม่เข้าไปอีก บางคนล้างแล้วอาจจะรู้สึกไม่เกลี้ยง ก็ให้ใช้เนื้อว่านหางจระเข้ทาไปที่ผิวหน้าก่อน แล้วจึงล้าง ซึ่งก็จะทำให้ล้างได้ง่ายขึ้น เกลี้ยงขึ้น และว่านหางจระเข้ยังจะช่วยในการรักษาผิวได้อีกด้วย
5. ห้ามทำกิจกรรมเกี่ยวกับใบหน้าทั้งหมด
กิจกรรมเกี่ยวกับใบหน้าที่กล่าวถึงคือ การนวดใบหน้า การมาร์คหน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องมีอะไรไปยุ่งกับใบหน้าด้วย จะบอกตรงนี้เลยว่าห้ามเด็ดขาด เพราะนั่นจะไปทำให้ผิวหน้าที่เสียแล้ว เกิดอาการแห้ง เสียความชุ่มชื้น และนั่นจะทำให้เชื้อโรคเข้าไปได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม
โดยในระหว่างที่เรากำลังมีปัญหาใบหน้า ให้หยุดการนวดหน้า มาร์คหน้าทั้งหมด ถือเป็นข้อห้ามที่ห้ามทำโดยเด็ดขาด อีกอย่างหนึ่งคือ ห้ามบีบสิวโดยเด็ดขาด เพราะบางคนอาจมีปัญหาสิวเพิ่มขึ้นด้วย
ซึ่งถ้าบีบสิว จะไปทำให้เชื้อโรคในเนื้อสิว ไปเปื้อนผิวหน้าที่เสีย ซึ่งจะทำให้ปัญหาผิวนั้นบานปลายมากขึ้นไปอีก รวมทั้งอาจจะมีอาการคัน อาการแสบที่ใบหน้าอีกด้วย ก็แนะนำว่าห้ามใช้นิ้วมือไปสัมผัสใบหน้าโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคเข้าแผลที่ใบหน้า
6. ใช้ยาแก้คันทาผิวบริเวณที่คันมากๆ
ในข้อ 3 เราได้บอกไปว่า ห้ามทาครีมหรืออะไรทั้งนั้น แต่ถ้าเรารู้สึกว่าคันผิดปกติ คันมากเกินไป ก็สามารถซื้อยาคันมาทาผิวได้ ทั้งนี้การเลือกยาควรเลือกยาที่เป็นสูตรอ่อน
เพราะคนที่แพ้ครีมนั้น ส่วนมากจะต้องมีประวัติแพ้ผิวง่ายมาก่อนแล้ว ดังนั้นให้เลือกยาทาแก้คันแบบที่สามารถรองรับกับผิวของเราได้ก่อน โดยให้การรักษาค่อยๆ ดำเนินไปอย่างช้า แต่ไม่เกิดผลเสียอะไร ดีกว่าใช้ยาดียาแรง ซึ่งอาจจะไปทำให้ผิวหน้าเราเสียมากกว่าเดิมก็เป็นได้
7. หลีกเลี่ยงแสงแดด
การที่ผิวหนังไปเจอแดดนั้น อาจจะทำให้ผิวที่เสียนั้น กลับไปเสียมากขึ้นอีกครั้ง และเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ของเชื้อโรค การหลีกเลี่ยงแดด ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด รวมไปถึงหลีกเลี่ยงลมแรงๆ เพราะฝุ่นอาจจะเข้าไปในแผล หลีกเลี่ยงสภาวะอากาศที่ทำให้เกิดเหงื่อ นอกจากนี้ยังควรใช้ครีมกันแดดทุกวันด้วย
เพราะเหงื่อก็เป็นอีกตัวการหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งจะไปทำให้แผลที่เป็นอยู่ลุกลามไปทั่วใบหน้า วิธีการป้องกันขั้นต้นคือ ใส่เสื้อผ้ามิดชิด ถ้าผิวหน้าแพ้ครีมก็ให้ใส่หน้ากากอนามัยด้วย ส่วนผิวกายก็ใส่เสื้อคลุม กางเกงขายาว อาจจะพกร่มเป็นกระจำไปด้วยก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อตัวเราเอง จะไดหายไวๆ และมีผิวสวยใสต่อไป
แหล่งข้อมูลอ้างอิง