Home ครีมทาผิวหน้า ลิปทิ้นต์ เลือกสียังไงให้แมทช์โทนผิวและลุคแต่งตัว สวยต๊าซ ไม่มีพลาด!

ลิปทิ้นต์ เลือกสียังไงให้แมทช์โทนผิวและลุคแต่งตัว สวยต๊าซ ไม่มีพลาด!

0
ลิปทิ้นต์ เลือกสียังไงให้แมทช์โทนผิวและลุคแต่งตัว สวยต๊าซ ไม่มีพลาด!

ลิปทิ้นต์ (Lip Tint) เป็นหนึ่งในไอเท็มยอดฮิตที่ครองใจสาวๆ ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้สีสันติดทนนาน ให้ความรู้สึกบางเบาและลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับทุกโอกาสไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าในวันสบายๆ หรือแม้แต่วันที่ต้องการลุคที่ดูสดใส ลิปทิ้นต์ช่วยเสริมเสน่ห์ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังตอบโจทย์สาวๆ ที่ไม่ชอบเติมลิปบ่อยๆ ระหว่างวัน ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นตัวเลือกที่สาวๆ หลายคนเลือกใช้ในทุกวัน

แต่การจะเลือกสีให้สวยงามและเข้ากับตัวเองได้อย่างแท้จริงนั้น ต้องผ่านการทำความเข้าใจเรื่องโทนสีผิว (Undertone) และเลือกสีที่เข้ากับลุคแต่งตัวก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากเลือกสีที่เหมาะสมไม่เพียงแต่จะทำให้ดูโดดเด่นขึ้นเท่านั้น แต่ยังเสริมความมั่นใจให้เรามีลุคที่ดูน่าจดจำอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักวิธีการเลือกสีลิปทิ้นต์ที่เข้ากับโทนสีผิวและลุคการแต่งตัวแบบง่ายๆ เพื่อให้ได้ลุคที่สวยสะกดทุกสายตา ไม่มีพลาด


ก่อนซื้อ ลิปทิ้นต์ ลองมาทำความรู้จักโทนสีผิวกัน

ก่อนซื้อ ลิปทิ้นต์ ลองมาทำความรู้จักโทนสีผิวกัน

การทำความเข้าใจโทนสีผิวหรือ Undertone เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกสีลิปทิ้นต์หรือเครื่องสำอางที่เหมาะสมและเสริมให้สีผิวดูสว่างสดใสยิ่งขึ้น การรู้จักอันเดอร์โทน ของตัวเองจะช่วยให้การเลือกสีลิปหรือเครื่องสำอางค์อื่น ๆ เป็นเรื่องง่ายและได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การดูแลผิวพรรณที่ดีจะช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ ทำให้การเลือกสีลิปต์ที่เหมาะกับโทนผิวเป็นไปได้ง่ายขึ้นอีกด้วย โดยทั่วไป โทนสีผิวจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ โทนเย็น (Cool Undertone), โทนร้อน (Warm Undertone) และโทนกลาง (Neutral Undertone)

โทนเย็น (Cool Undertone)

ผิวที่จัดอยู่ในกลุ่มโทนเย็นมักมีเส้นเลือดใต้ผิวหนังที่ดูเป็นสีฟ้าหรือม่วง และสังเกตได้ว่าผิวมักมีความขาวอมชมพูหรือซีดเมื่อออกแดด บางครั้งอาจเกิดอาการแดงหรือไหม้เมื่อโดนแดดแรงๆ ดังนั้น การดูแลผิวที่มีโทนเย็นให้สวยและมีสุขภาพดีอยู่เสมอจะช่วยให้ผิวดูมีความสม่ำเสมอ และสามารถแต่งหน้าด้วยสีที่เข้ากันได้ง่ายขึ้น

  • สีที่มีพื้นฐานของโทนผิวนี้ : สีชมพูแดง, สีชมพูกุหลาบ, สีม่วงพลัม, หรือสีแดงเชอร์รี่ ซึ่งจะช่วยขับให้ผิวดูสดใสมีชีวิตชีวา

สถิติในกลุ่มผู้หญิงไทยพบว่า ประมาณ 15-20% มีโทนผิวเย็น ซึ่งมักจะพบในคนที่มีผิวค่อนข้างขาว

โทนร้อน (Warm Undertone)

สำหรับผิวโทนร้อน จะสังเกตเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังเป็นสีเขียว ผิวจะมีพื้นสีเหลืองหรือทอง และเมื่อออกแดดจะดูเป็นสีผิวแทนอย่างเป็นธรรมชาติ

  • สีที่เหมาะสม : ทำให้เหมาะกับสีลิปที่มีพื้นฐานสีอุ่น เช่น สีส้มพีช, สีแดงอิฐ, สีส้มอิฐ, หรือสีส้มทอง ที่จะช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและอบอุ่น

ในกลุ่มผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ที่มีผิวสีเข้มหรือผิวสีน้ำผึ้ง มักจะมีโทนร้อนอยู่ในระดับ ประมาณ 60-70% ซึ่งเป็นโทนผิวที่เลือกสีส้มและแดงอิฐได้อย่างหลากหลายและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

โทนกลาง (Neutral Undertone)

โทนกลางเป็นโทนผิวที่สามารถเข้ากับสีได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นโทนเย็นหรือโทนร้อน ซึ่งเส้นเลือดใต้ผิวหนังจะมีสีผสมระหว่างฟ้าและเขียว และผิวจะดูไม่ขาวซีดหรือเข้มจนเกินไป ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเลือกสีลิปทิ้นต์ได้อย่างมาก

  • สีที่เหมาะ : โทนกลางมักจะเป็นสีชมพูนู้ด, สีส้มพีช, หรือสีเบจ ซึ่งสีเหล่านี้จะช่วยขับให้ผิวดูสดใสโดยไม่ทำให้ดูซีดหรือหม่น

ในกลุ่มคนไทยที่มีโทนกลางคาดว่ามีประมาณ 10-15% ซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถเลือกใช้สีลิปได้หลายเฉดตามสไตล์ที่ต้องการ


วิธีเลือกสี ลิปทิ้นต์ ตามลุคแต่งตัว

วิธีเลือกสี ลิปทิ้นต์ ตามลุคแต่งตัว

การเลือกสีลิปทิ้นต์ให้แมทช์กับลุคการแต่งตัว สามารถเพิ่มความลงตัวและเสน่ห์ให้กับลุคของคุณได้อย่างน่าประทับใจ การเลือกสีลิปที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยขับให้ใบหน้าดูโดดเด่น แต่ยังทำให้ลุคดูสมบูรณ์และมีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น มาดูกันว่าสีแบบไหนที่เหมาะกับลุคต่างๆ

ลุคใสๆ ธรรมชาติ

สำหรับลุคที่ดูสบายๆ เป็นธรรมชาติ สีลิปทิ้นต์ที่แนะนำคือสีชมพูอ่อนหรือสีพีช เนื่องจากสีเหล่านี้จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนโยน สดใส และไม่แต่งจนเกินไป

  • สีที่เข้ากัน: สีชมพูอ่อนและพีชเป็นโทนสีที่เหมาะกับวันสบายๆ หรือวันทำงานทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้ลุคดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางวัน

สีชมพูอ่อนและพีชมักเป็นสีที่คนไทยนิยมใช้ในลุคใสๆ มีสถิติที่บ่งบอกว่า ประมาณ 40% ของผู้หญิงไทย เลือกใช้สีโทนนี้ในการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ เนื่องจากให้ความรู้สึกที่ดูสุภาพและเป็นมิตร

ลุคสดใส สนุกสนาน

หากคุณต้องการลุคที่สดใส สนุกสนาน สีที่แนะนำคือสีส้มพีชหรือชมพูสว่าง เพราะสีเหล่านี้ช่วยเสริมความมีชีวิตชีวาและความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี

  • สีที่เสริมความสดใส: สีส้มพีชและชมพูสว่างเป็นโทนสีที่เหมาะกับการแต่งตัวแบบสดใส และเสื้อผ้าสีสันสดใสเช่นกัน สีเหล่านี้จะช่วยให้ลุคดูโดดเด่น ทันสมัย และทำให้คุณดูเป็นคนร่าเริง

จากผลสำรวจผู้หญิงไทยที่ชอบการแต่งตัวสนุกสนาน ประมาณ 30% ชอบใช้สีลิปสว่างสดใสในการแต่งหน้า เนื่องจากสีนี้ช่วยเสริมความมั่นใจและให้ความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง

ลุคเรียบหรู ดูแพง

สำหรับลุคที่ต้องการความหรูหราลูกคุณและดูแพง สีที่เหมาะสมคือโทนนู้ดและน้ำตาลเบจ สีเหล่านี้มีความเป็นธรรมชาติและขรึมเหมาะสำหรับการจับคู่กับเสื้อผ้าโทนเอิร์ธโทนหรือโทนกลางๆ

  • สีที่เผยออร่าดูแพง: การใช้สีโทนนู้ดและเบจจะช่วยให้ลุคดูเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความแพงและความหรูหรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการให้ลุคดูมีระดับและสวยแบบมินิมอล

โทนนู้ดและเบจเป็นสีที่ผู้หญิงไทยประมาณ 25% เลือกใช้เมื่อต้องการแต่งลุคให้ดูเรียบหรู ซึ่งมักจะใช้ในโอกาสที่เป็นทางการหรืองานที่ต้องการความประณีต เราขอเสริมว่าการใช้คุชชั่นที่เข้ากับโทนผิวจะช่วยให้ลุคการแต่งหน้าดูสมบูรณ์แบบ

ลุคเซ็กซี่หรือแกลม

เมื่อต้องการลุคที่โดดเด่นและดึงดูดสายตา สีลิปที่เหมาะสมคือสีแดงเข้มหรือสีเบอร์รี่ สีเหล่านี้จะเสริมให้ลุคดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์ในแบบที่ยากจะละสายตา

  • สีที่ช่วยดึงดูดความเฟมินิน: การใช้สีแดงเข้มหรือเบอร์รี่จะทำให้ใบหน้าดูคมชัดและเพิ่มความมั่นใจ เหมาะสำหรับการแต่งตัวที่เน้นความแกลม เช่น ชุดเดรสหรือเสื้อผ้าที่ดูหรูหรา

มีการสำรวจว่าประมาณ 20% ของผู้หญิงไทย เลือกใช้สีแดงเข้มและเบอร์รี่ในการแต่งหน้าสำหรับงานกลางคืนหรือโอกาสพิเศษ ซึ่งช่วยให้ลุคดูทรงพลังและเป็นที่น่าจดจำ


เป๊ะแน่นอน! ด้วยเทคนิคการลง ลิปทิ้นต์ ให้สวยติดทน

เป๊ะแน่นอน! ด้วยเทคนิคการลง ลิปทิ้นต์ ให้สวยติดทน

การลงลิปทิ้นต์ให้สวยและติดทนนาน เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ริมฝีปากดูสวยอิ่ม และไม่ต้องเติมลิปบ่อยๆ ระหว่างวัน ด้วยเทคนิคเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้สีลิปติดทนนานขึ้น แต่ยังช่วยให้ลุคดูเป็นธรรมชาติและเรียบเนียน มาดูกันว่าแต่ละขั้นตอนทำได้อย่างไรบ้าง นอกจากการเลือกสีลิปที่ใช่แล้ว การเติมน้ำหอมที่หอมละมุนจะช่วยให้ลุคของคุณสมบูรณ์แบบและน่าจดจำมากขึ้น

เตรียมริมฝีปากก่อนทาลิป

สำคัญที่สุดคือการบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ก่อนการทา ควรเริ่มด้วยการใช้ลิปบาล์มเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ป้องกันไม่ให้ตกร่องหรือทำให้ริมฝีปากแห้ง นอกจากนี้ ควรสครับริมฝีปากสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียนและดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้

วิธีการทาลิปทิ้นต์ให้สีติดทนนาน

ลงลิปทีละชั้น เริ่มจากการทาลิปทิ้นต์ในปริมาณเล็กน้อยบนริมฝีปาก จากนั้นใช้นิ้วมือหรือแปรงเกลี่ยเบาๆ เพื่อให้สีสม่ำเสมอและซึมเข้าสู่ผิวริมฝีปาก การลงทีละชั้นช่วยให้สีลิปติดแน่นและดูเนียนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในวันยาวนานที่ต้องการลุคที่ยังคงสวยเหมือนตอนเช้า วิธีนี้ช่วยให้ลิปติดทนนานขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับการทาลิปแบบเต็มปากทันที นอกจากนี้ยังลดการตกร่องและช่วยให้สีดูเป็นธรรมชาติขึ้น

ทาซ้ำและใช้การเบลนด์ช่วย

  • ทาซ้ำเพื่อเพิ่มความเข้มของสี: หากต้องการให้สีดูเข้มและโดดเด่นขึ้น สามารถทาลิปทิ้นต์ในชั้นบางๆ แล้วค่อยๆ ทาซ้ำโดยเพิ่มชั้นทีละเล็กน้อย การทำเช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้สีติดทนยิ่งขึ้น แต่ยังให้ลุคที่เป็นธรรมชาติและไม่ดูหนักเกินไป
  • เทคนิคการเบลนด์: ใช้นิ้วเกลี่ยบริเวณขอบริมฝีปากให้สีดูนุ่มนวลและกลมกลืน ทำให้ลุคดูโปร่งสบายและสดใส ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าสำหรับวันสบายๆ หรือการออกงานกลางคืน การทาซ้ำแบบทีละชั้นสามารถเพิ่มความติดทนนานได้ถึง 50% และทำให้ลุคดูเนียนสวยขึ้นมาก

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือกและทาลิปทิ้นต์ให้เป๊ะปัง

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือกและทาลิปทิ้นต์ให้เป๊ะปัง

การทาลิปทิ้นต์ให้ดูสวยติดทน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกสีที่ตรงกับผิวเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้ลุคดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ลิปทิ้นต์ของคุณดูสวยติดทนและกลมกลืนกับการแต่งหน้า มาดูกันว่าเคล็ดลับใดบ้างที่จะช่วยเสริมให้ริมฝีปากดูเป๊ะในทุกมุม

เลือกสีลิปตามแสงธรรมชาติ

แสงธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญในการทาลิป เพราะช่วยให้เราเห็นสีจริงของลิปทิ้นต์ได้ชัดเจนที่สุด การลองสีลิปในแสงธรรมชาติจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าสีลิปที่เลือกเข้ากับโทนผิวได้อย่างแท้จริง เนื่องจากในบางครั้ง สีลิปที่ดูสวยในแสงไฟอาจไม่เข้ากับผิวเมื่อออกไปในแสงกลางแจ้ง ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามแนะนำว่า 80% ของการเลือกสีลิปที่ผิดพลาดเกิดจากการลองในแสงไฟในห้อง ทำให้สีที่ได้อาจดูเพี้ยน การใช้แสงธรรมชาติจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเลือกสีลิปให้ตรงกับผิวจริงๆ นอกจากนี้การใช้ Thiamidol ในการดูแลผิวจะช่วยลดจุดด่างดำและความหมองคล้ำ ทำให้ผิวดูสดใส และสีลิปทิ้นต์เข้ากับผิวได้ดียิ่งขึ้น

เลือกสีที่หลากหลายสำหรับทุกลุค

การลงทุนซื้อหลายเฉดสี จะช่วยให้คุณมีตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับการแต่งหน้าหลายสไตล์ แนะนำให้มีลิปทิ้นต์สีอ่อนสำหรับลุคที่เป็นธรรมชาติในวันทำงาน และลิปทิ้นต์สีเข้มสำหรับลุคที่ต้องการความโดดเด่นในโอกาสพิเศษ การมีสีที่หลากหลายยังช่วยให้คุณสร้างสรรค์ลุคใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น ทำให้การแต่งหน้าไม่น่าเบื่อ และสามารถปรับให้เหมาะสมกับแต่ละโอกาส

เพิ่มการบำรุงริมฝีปาก

การใช้ลิปบาล์มที่มี SPF เป็นขั้นตอนสำคัญในการปกป้องและบำรุงริมฝีปาก ริมฝีปากเป็นผิวที่บอบบางและไวต่อแสงแดด หากไม่ได้รับการปกป้อง อาจเกิดความเสียหายจากรังสี UV เช่น ริมฝีปากแห้ง แตก หรือมีความหมองคล้ำได้ การบำรุงด้วยลิปบาล์มที่มี SPF ไม่เพียงช่วยปกป้องริมฝีปากเท่านั้น แต่ยังทำให้ริมฝีปากดูเรียบเนียน พร้อมให้ติดทนและดูสวยยิ่งขึ้น


ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกสีลิปทิ้นต์การเข้าใจโทนผิวและรู้จักเลือกสีลิปที่เข้ากับสไตล์การแต่งตัวในแต่ละวันจะช่วยให้คุณโดดเด่นในทุกโอกาสอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีอ่อนที่ดูสดใสสำหรับวันทำงานหรือสีเข้มที่ช่วยให้ลุคดูมีพลังในงานสำคัญ ด้วยการทดลองและฝึกทาลิปทิ้นต์ในเฉดสีต่างๆ ยังเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณค้นพบลุคที่ใช่ในแบบของตัวเอง การฝึกเลือกสีและการลงลิปที่หลากหลายจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับสีที่เข้ากับผิวและเสริมลุคได้อย่างมั่นใจ ที่สำคัญ อย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆ เพราะความงามคือการสร้างเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง


คำถามที่พบบ่อย

  1. โทนผิวของเรามีผลต่อการเลือกสีลิปทิ้นต์อย่างไร?
    โทนสีผิวมีบทบาทสำคัญในการเลือกสีลิปทิ้นต์ เพราะแต่ละโทนผิวจะมีความเหมาะสมกับสีที่ต่างกัน โทนผิวเย็น (Cool Undertone) จะเหมาะกับสีชมพูแดงหรือแดงอมม่วง ส่วนโทนผิวร้อน (Warm Undertone) จะเหมาะกับสีส้มพีชหรือแดงอิฐ และโทนผิวกลาง (Neutral Undertone) สามารถเลือกใช้ได้ทั้งสองเฉด ทำให้การเลือกสีที่เหมาะกับโทนผิวช่วยขับผิวหน้าให้ดูสดใสและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  2. ถ้าอยากให้ลิปทิ้นต์ติดทนตลอดทั้งวัน ควรทำอย่างไร?
    การเตรียมริมฝีปากให้ชุ่มชื้นและเรียบเนียนเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ ใช้ลิปบาล์มบำรุงก่อนทาลิปทิ้นต์เสมอ และควรลงสีลิปทิ้นต์ทีละชั้นเพื่อให้ติดทนได้นานขึ้น นอกจากนี้ การทาลิปซ้ำโดยเพิ่มชั้นบางๆ และเบลนด์สีให้สม่ำเสมอจะช่วยให้ลิปดูเป็นธรรมชาติและติดทนตลอดวัน
  3. การเลือกสีลิปทิ้นต์ควรทำในแสงแบบไหนเพื่อให้ได้สีที่ตรงกับผิวจริงๆ?
    ควรเลือกและทดลองสีลิปทิ้นต์ในแสงธรรมชาติ เนื่องจากแสงธรรมชาติให้สีที่แท้จริงที่สุด การลองในแสงไฟภายในห้องอาจทำให้สีลิปดูเพี้ยนไป แสงธรรมชาติจึงช่วยให้เห็นสีลิปที่แมทช์กับโทนผิวได้ดีที่สุด ช่วยป้องกันการเลือกสีที่ไม่ตรงกับความต้องการ
  4. ลิปทิ้นต์มีผลเสียต่อริมฝีปากหรือไม่ และควรดูแลริมฝีปากอย่างไรหลังทาลิปทิ้นต์?
    เพราะลิปทิ้นต์บางชนิดอาจทำให้ริมฝีปากแห้งได้ หากใช้เป็นประจำ ควรบำรุงด้วยลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี SPF เพื่อปกป้องริมฝีปากจากแสงแดด การบำรุงเป็นประจำจะช่วยให้ริมฝีปากไม่แห้งแตกและคงความชุ่มชื้น

อ้างอิง

  1. Jesse Showalter, Creative Basics — Color Theory, Medium, Febuary 1, 2017, https://medium.com/@iamjesseshow/creative-basics-color-theory-5a39c6870af3.
  2. 9 Different Types of Lip Shape + How To Find Yours, Charlottetilbury, February 23, 2024, https://www.charlottetilbury.com/th/secrets/different-types-of-lip-shape?srsltid=AfmBOoqiF3seAW3fCKXdKhmj5MNzDqNVOh6fXxYoo8yrIkS3Z2nWfB6C
  3. What Color Lipstick Should You Wear? MUAs Share the Best Shade for Your Skin Tone, Byrdie, October 29, 2024, https://www.byrdie.com/best-lipstick-for-skin-tone.