ปัญหา ผิวแตกลาย เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและทำให้สูญเสียความมั่นใจไม่กล้าใส่เสื้อผ้าโชว์ผิว เพราะกลัวว่าจะเห็นผิวแตกลายที่เกิด ซึ่งผิวแตกลายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนบนร่างกาย สำหรับใครที่มีปัญหาผิวแตกลาย ต่อไปนี้คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะเรามีวิธีแก้ปัญหาผิวแตกลายให้กลับมาเรียบเนียนแบบทันใจมากฝากกัน
ผิวแตกลาย เกิดจาก
ผิวแตกลาย (Stretch mark) คือ รอยแผลชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นบนผิว ซึ่งรอยแผลนี้เกิดจากการที่ผิวหนังเกิดการยืดและหดตัวในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างกะทันหัน จึงมีการสร้างเซลล์ผิวทดแทนส่วนที่เป็นแผล ซึ่งเซลล์ที่สร้างขึ้นมาใหม่จะมีสีที่ต่างจากเซลล์เดิม เรียกส่วนนี้ว่า “ผิวแตกลาย” โดยสาเหตุของผิวแตกลาย ดังนี้
- การตั้งครรภ์ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะมีการเพิ่มของน้ำหนักตัวสูงทำให้ผิวหนังเกิดการขยายตัวมากกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ต้นขาและสะโพก ทำให้หลังคลอดจึงมีผิวหนังแตกลายเกิดขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียดที่ผลิตจากต่อมหมวกไต หากฮอร์โมนชนิดนี้น้อยกว่าปกติจะทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวอ่อนแอ ส่งผลให้เกิดการยืดหยุ่น ขาดความกระชับ
- ขาดวิตามิน หากร่างกายมีภาวะขาดวิตามินจะทำให้กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินของผิว ดังนั้นหากร่างกายขาดวิตามินจะทำให้เซลล์ผิวอ่อนแอ แตกลายงาได้ง่าย
- ผิวแห้ง ภาวะผิวแห้ง ลอกเป็นขุยจะนำมาซึ่งผิวแตกลายได้ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการเสียดสีบ่อย ๆ เช่น ขาหนีบ รักแร้ มือ เป็นต้น
- น้ำหนักเกิน คนอ้วนหรือคนที่มีน้ำหนักมากเกินไป คนอ้วนที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดแผลแตกลายขึ้น
จะพบว่าสาเหตุที่ทำให้ผิวแตกลายสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการเสียดสีและสะสมของไขมันบนร่างกาย
รู้จักรอยผิวแตกลายแต่ละประเภท
ผิวแตกลายที่เกิดขึ้นมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของผิวแตกลายที่เกิดขึ้น โดยสามารถแบ่งประเภทของผิวแตกลายออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ประเภทรอยแตกลายแดง (Striae Rubra) คือ การที่ผิวเกิดการยืดอย่างเฉียบหลัน ทำให้ผิวหนังเกิดแผลทันที ทำให้เห็นสามารถสังเกตเห็นเส้นเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิว รอยแตกประเภทนี้มีสีแดง ชมพู ม่วง ชมพูอมม่วง หรือสีน้ำตาลเข้ม
- ประเภทรอยแตกลายขาว (Striae Alba) คือ รอยแตกของผิวที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ทำให้ไม่สามารถสังเกตเส้นเลือดที่อยู่ใต้ผิวได้ ส่งผลให้รอยแผลจะมีลักษณะเป็นสีขาวเป็นร่องที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน
ผิวแตกลายทั้ง 2 ประเภทนี้จะเป็นรอยแตกลายที่เกิดต่อเนื่องกัน โดยรอยแตกลายแดงจะเกิดขึ้นก่อน เมื่อผ่านไปเป็นเวลานาน รอยแตกแดงจะกลายเป็นรอยแตกลายขาวนั่นเอง
วิธีแก้ผิวแตกลายให้กลับมาเรียบเนียน
ผิวแตกลายที่เกิดขึ้นสามารถรักษาให้หายได้ แต่ว่ารอยแตกลายแดงจะสามารถรักษาให้หายได้เร็วกว่ารอยแตกลายขาว โดยวิธีการแก้ผิวแตกลายมีดังนี้
-
- การทาครีม ผิวแตกลายสามารถทาครีมเพื่อลดรอยแตกลายที่เกิดได้ โดยครีมรักษาส่วนมากจะมีส่วนผสมของยากลุ่มอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ เช่น เตรติโนอิน (Tretinoin) ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว การทาครีมจะช่วยลดรอยแตกลายให้ค่อย ๆ จางลง เหมาะกับผิวแตกลายที่เกิดขึ้นไม่เกิน 2-3 เดือนหรือรอยแตกลายแดง
- การสครับผิว การสครับผิวเป็นเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้เซลล์ผิวบริเวณที่ผิวแตกลายค่อย ๆ จางลง ควรสครับอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมาะกับการรักษาลอยแตกลายแดง
- การฉายเลเซอร์ แสงเลเซอร์จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสตินในเซลล์ผิวที่บริเวณดังกล่าว ส่งผลให้มีการผลัดเซลล์ผิวเก่าและสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รอยแตกลายจางลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการฉายเลเซอร์สามารถรักษารอยแตกลายได้ทั้งรอยแตกลายขาวและรอยแตกลายแดง
- ไมโครนีดลิง (Microneedling) คือ การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยการใช้เข็มขนาดเล็ก (Microneedle) จำนวนมากทิ่มลงไปที่บริเวณมีรอยแตกลาย การทิ่มเข็มลงไปจะทำให้เกิดรอยแผลขนาดเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยร่างกายเราจะทำการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ คอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้รอยแตกลายจางลง เหมาะกับรอยแตกลายขาวที่รักษาหายได้ยาก
การรักษาผิวแตกลายมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่การรักษารอยแตกลายที่ได้ผลดีที่สุด จะต้องทำการรักษาตั้งแต่เริ่มมีรอยแตกลายเกิดขึ้นหรือทาครีมเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกลาย
แนะนำครีมแก้ผิวแตกลายที่ใช้ดี
การทาครีมถือเป็นวิธีที่สามารถรักษาและป้องกันรอยแตกลายได้ ซึ่งครีมที่ช่วยแก้ผิวแตกลายเด็ด ๆ มีอะไรบ้างมาดูกัน
- Eve’s Stretch Mark Body Oil Gel ครีมทาผิวมีส่วนผสมของ XPressEV จากสารสกัดไข่มุกบริสุทธิ์พร้อมทั้งสารสกัด Black Muberry บำรุงผิวให้แข็งแรง นอกจากนั้นยังผสมสารสกัดจากใบบัวบกที่มีส่วนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย
- Palmer’s Cocoa Butter Formula with Vitamin E Massage Lotion For Stretch Marks ครีมที่อัดแน่นด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์สารสกัดจากโกโก้บัตเตอร์ธรรมชาติ วิตามินอี คอลลาเจน และอิลาสติน ช่วยทำให้รอยแตกลายจางลงอย่างรวดเร็ว
- Nivea Cream ครีมสูตรเข้มข้นสูงซึมซาบได้อย่างล้ำลึกสู่ใต้ผิว มีส่วนผสมของมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้นด้วยยูเซริท (Eucerit) และแพนธีนอลที่ช่วยป้องกันและรักษาผิวแตกลาย
- Intensive Stretch Marks Cream ครีมเข้มข้นที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิคและออยบำรุงผิวอย่างน้ำมันอาร์แกนที่ช่วยรักษาแผลแตกลายให้จางลงและเสริมสร้างความแข็งแรงของผิว ป้องกันไม่ให้เกิดผิวแตกลายได้อีก
ครีมทุกตัวสามารถช่วยรักษาและป้องกันผิวแตกลายอย่างได้ผล แต่การใช้ครีมจะมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น หากมีการควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายและดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ รับรองได้ว่าผิวแตกลายของคุณจะกลับมาเนียนเรียบอย่างแน่นอน
ที่มา